ไวรัสคอมพิวเตอร์

แบ่งปันบทความนี้Share on Facebook
Facebook
Tweet about this on Twitter
Twitter
Email this to someone
email

 

คิดว่าทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า “ไวรัสคอมพิวเตอร์” กันอยู่แล้ว แต่คิดว่าทุกคนคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับมันอยู่ไม่น้อย วันนี้กูรูคอมพิวเตอร์จะพาไปไขข้อสงสัยให้ได้ทราบกันว่า ไวรัสคอมพิวเตอร์คืออะไร ทำงานอย่างไร มีวิธีแก้ไขปัญหา หรือป้องกันได้อย่างไร

ไวรัสคอมพิวเตอร์

ไวรัสคอมพิวเตอร์คืออะไร

ไวรัสคอมพิวเตอร์ (computer virus) คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งที่ถูกเขียนขึ้นมาให้มีคุณสมบัติในการนำตัวเองไปติดปะปนกับโปรแกรมอื่นที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของเรา โดยมีจุดประสงค์เพื่อก่อกวน สร้างความรำคาญ หรือทำลายระบบของคอมพิวเตอร์ในส่วนต่างๆ ได้แก่

  • โปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือชุดคำสั่ง ทั้งโปรแกรมระบบปฏิบัติการ และโปรแกรมอื่นๆ
  • อุปกรณ์ต่างๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์ แผ่นดิสก์ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังสามารถแพร่กระจายจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ได้ จึงมีการเรียกชื่อว่าเป็นไวรัสนั่นเอง

ไวรัสคอมพิวเตอร์สามารถติดต่อได้ทางไหนบ้าง

ไวรัสคอมพิวเตอร์สามารถติดต่อและแพร่กระจายได้ผ่านช่องทางต่อไปนี้

  • แผ่นดิสก์
  • แฟลชไดรว์
  • ระบบเครือข่าย เช่น ทางสายแลน สัญญาณ wireless เป็นต้น

อาการของคอมพิวเตอร์ที่อาจจะเกิดจากการทำงานของไวรัสคอมพิวเตอร์

หากพบว่าคอมพิวเตอร์ของท่านมีอาการดังต่อไปนี้ เป็นไปได้ว่าคอมพิวเตอร์ของท่านอาจจะติดไวรัสแล้วก็เป็นได้

  • ข้อมูลหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ อาจจะเป็นข้อมูลในฮาร์ดดิสก์หรือแฟลชไดรว์ก็ได้
  • ไฟล์ข้อมูลถูกเปลี่ยนเป็นไฟล์ขยะ
  • เครื่องทำงานช้ากว่าปกติมาก
  • มีการทำงานที่ผิดคำสั่ง เช่น คลิกขวาที่ My computer แต่แสดงผลลัพธ์เป็นการคลิกขวาที่อื่น เป็นต้น
  • มีการเปิดโปรแกรมต่างๆ ขึ้นมาเอง เช่น เปิดหน้าต่าง internet explorer ขึ้นมาไม่หยุด เป็นต้น
  • มีการตั้งเวลาทำงานบางอย่างขึ้นมาเอง เช่น มีการตั้ง scheduled task ขึ้นมาเอง เป็นต้น

พฤติกรรมการแพร่กระจายของไวรัสคอมพิวเตอร์

ไวรัสมีวิธีการแพร่กระจายได้ง่ายๆ โดยเริ่มต้นจะทำการแฝงตัวกับไฟล์ เมื่อมีการนำไฟล์ดังกล่าวมาลงที่เครื่องของเรา และมีการเรียกใช้ไฟล์ดังกล่าวเกิดขึ้น คอมพิวเตอร์ของเราก็จะติดไวรัสทันที

ประเภทของไวรัสคอมพิวเตอร์

ไวรัสคอมพิวเตอร์ สามารถจำแนกได้ดังต่อไปนี้

  • บูตเซกเตอร์ไวรัส (boot sector virus) คือไวรัสที่แพร่เข้าสู่เป้าหมายในระหว่างเริ่มทำการบูตเครื่อง
  • ไฟล์ไวรัส (file virus) คือไวรัสที่มีการแทรกหรือแอบแฝงตามไฟล์ต่างๆ
  • หนอน (worm) คือไวรัสชนิดหนึ่งซึ่งนับได้ว่ามีความสามารถในการทำลายระบบในเครื่องคอมพิวเตอร์สูงที่สุดในบรรดาไวรัสทั้งหมด เนื่องจากสามารถกระจายตัวได้รวดเร็วผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต เปรียบเสมือนหนอนตามธรรมชาติที่กัดกินผัก ผลไม้ ยิ่งแพร่กระจายและมีจำนวนมากขึ้นเท่าใด การทำลายก็จะสูงและรวดเร็วมากขึ้นนั่นเอง
  • โทรจัน (Trojan) คือไวรัสที่ไม่ได้กระจายตัวด้วยตัวมันเอง แต่จะเป็นไวรัสที่กระจายตัวโดยการแนบมากับ อีการ์ด อีเมล์ หรือโปรแกรมที่มีให้ดาวน์โหลดตามอินเทอร์เน็ตในเว็บไซต์ใต้ดิน โดยที่เครื่องของเราจะติดไวรัสประเภทนี้โดยที่เราไม่รู้ตัวเลย ที่เรียกว่าโทรจันนั้นเพราะมีพฤติกรรมเช่นเดียวกับม้าเมืองทรอยนั่นเอง

วิธีป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์

มีวิธีป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์อยู่มากมาย ดังต่อไปนี้

  • ติดตั้งโปรแกรม antivirus บนคอมพิวเตอร์ และควรดูแลให้โปรแกรม antivirus ทำงานเป็นปกติอยู่เสมอ ไม่ควรปล่อยให้โปรแกรม antivirus หมดอายุ หรือหยุดการ update ข้อมูลไวรัส
  • ไม่ดาวน์โหลดไฟล์ที่มีการแจ้งเตือนว่าเป็นไฟล์เสี่ยงต่อการติดไวรัส เพราะในบางครั้งเรามีความจำเป็นต้องใช้งานไฟล์หรือโปรแกรมบางอย่าง แต่ปรากฏว่าโปรแกรม antivirus แจ้งเตือนว่าไฟล์หรือโปรแกรมดังกล่าวติดไวรัส ผู้ใช้บางท่านก็ยังดิ้นรนใช้ไฟล์นั้นต่อไป อาจทำให้ติดไวรัส และส่งผลเสียต่อคอมพิวเตอร์ของเราได้
  • ใช้โปรแกรมแช่แข็งไดรว์ เช่น Deep freeze หรือ undo card แช่แข็งไดรว์ไว้ โปรแกรมดังกล่าวจะมีการแช่แข็งไดรว์ไว้ หมายความว่า มีการจดจำค่าต่างๆ ทั้งหมดของไดรว์นั้นเอาไว้แบบนั้น หากมีการเปลี่ยนแปลงของไฟล์หรือโปรแกรมเกิดขึ้น เมื่อเราทำการ restart เครื่องคอมพิวเตอร์ จะพบว่าเมื่อเครื่องเปิดขึ้นมาอีกครั้ง ค่าต่างๆ ของระบบทั้งไฟล์และโปรแกรมก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ดังนั้นกรณีที่มีไวรัสเข้ามาในเครื่อง เพียงแค่เรา restart เครื่อง ไฟล์ไวรัสก็จะถูกลบไปโดยอัตโนมัติ

วิธีแก้ไขปัญหาเมื่อคอมพิวเตอร์ติดไวรัส

  • ใช้โปรแกรม antivirus ในการ scan ไวรัส และลบไวรัสทิ้งไป โดยอาจใช้โปรแกรม antivirus ที่มีอยู่แล้วบนเครื่อง หรือหาโปรแกรม antivirus ตัวอื่นมาติดตั้งและ scan ใหม่อีกครั้ง แต่มีข้อควรระวังคือ ห้ามติดตั้ง antivirus พร้อมกัน 2 โปรแกรม เพราะอาจจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของท่านทำงานช้า หรือแทบทำอะไรไม่ได้เลย ย้ำว่าต้องมีเพียงโปรแกรมเดียวอยู่บนเครื่องเท่านั้น หากต้องการติดตั้งโปรแกรมตัวใหม่ ให้ถอนการติดตั้งโปรแกรมตัวเก่าออกไปก่อน
  • ใช้โปรแกรม combofix ในการล้างไวรัส โดยโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรม freeware ที่สามารถล้างไวรัสทั้งหมดได้ในเวลาอันรวดเร็ว รวมทั้งแก้ไขค่าต่างๆ ที่ผิดปกติทั้งหมดของระบบ เป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมในหมู่ช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ เพราะได้ผลดีเยี่ยม โดยสามารถหาดาวน์โหลดได้ทั่วไปในอินเตอร์เน็ต
  • ใช้ระบบ system restore โดยการย้อนเวลากลับไปยังตอนที่คอมพิวเตอร์ของเรายังปกติดีอยู่ โดยวิธีนี้จะไม่มีกระทบต่อไฟล์ข้อมูลของเรา
  • ลง windows ใหม่  วิธีนี้เป็นวิธีสุดท้าย หากไม่สามารถแก้ปัญหาไวรัสคอมพิวเตอร์ได้ ก็ให้ใช้วิธีนี้ ไฟล์ไวรัสจะถูกลบออกไปอย่างแน่นอน

คิดว่าทุกคนคงจะรู้จัก และเข้าใจเกี่ยวกับไวรัสคอมพิวเตอร์กันมากขึ้นนะครับ ลองนำวิธีการป้องกันไปใช้กันดูนะครับ รับรองว่าคอมพิวเตอร์ของท่านจะปลอดภัยจากไวรัสอย่างแน่นอน ที่แน่ๆ ช่วยประหยัดเงินค่าลง windows ใหม่แน่นอนครับผม ^ – ^