เปลี่ยนแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟ (ups) ด้วยตนเอง

แบ่งปันบทความนี้

Facebook

Twitter

email

เครื่องสำรองไฟ (ups) สำหรับคอมพิวเตอร์ โดยปกติแล้วเมื่อใช้งานไปประมาณ 1-2 ปี ก็จะเสีย ด้วยอาการต่างๆ นาๆ เช่น

• ชาร์จไฟไม่เข้า
• เปิดไม่ติด ไม่มีสัญญาณไฟแสดงขณะชาร์จไฟ
• มีเสียงร้องตลอดเวลา
• เปิดเครื่องติดปกติดี แต่ปัจจุบันไม่สำรองไฟ เมื่อมีไฟตก

เหล่านี้เป็นต้น

จากอาการเสียของเครื่องสำรองไฟ (ups) ข้างต้น ส่วนใหญ่ก็จะเกิดจาก

• บอร์ดเสีย
• แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ

ถ้าหากบอร์ดเสีย ก็จะต้องซ่อมบอร์ด ราคาก็เยอะพอตัว อาจจะขนาดว่าซื้อเครื่องสำรองไฟ (ups) ใหม่ก็ยังคุ้มกว่า

แต่ถ้าหากแบตเตอรี่เสียล่ะ จะทำยังไง

แบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟ (ups) เสียหรือเสื่อมสภาพ เปลี่ยนเองได้หรือไม่

ถ้าหากแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟ (ups) เสีย หรือเสื่อมสภาพ เราสามารถที่จะเปลี่ยนเองได้โดยง่าย หลักการง่ายๆ ก็คือการถอดแบตเตอรี่ตัวเก่าออก และใส่แบตเตอรี่ตัวใหม่เข้าไปแทน จากนั้นชาร์จไฟทิ้งไว้ แล้วก็สามารถนำไปใช้งานได้เลย

โดยปกติแล้ว ถ้าเราส่งซ่อม ช่างจะคิดค่าแบตเตอรี่บวกกับค่าแรงอีก ทำให้เราต้องจ่ายเงินออกมากขึ้น แต่หากเราสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟ (ups) ได้เอง ก็ไม่จำเป็นต้องเสียค่าซ่อมส่วนต่าง ประหยัดได้อีกทางนึงเลย ว่าแต่วิธีการเปลี่ยนแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟ มีขั้นตอนอย่างไร มาดูกันครับ

ตัวอย่างการเปลี่ยนแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟ (ups) ยี่ห้อ Syndome 800VA

อาการเสียของเครื่องสำรองไฟ (ups) ตัวนี้

• เปิดเครื่องไม่มีสัญญาณไฟเลย เงียบกริบ ไม่มีเสียงใดๆ
• เสียบสายเครื่องสำรองไฟ (ups) เข้ากับเต้ารับภายในบ้าน พร้อมกับเปิดเครื่องสำรองไฟ (ups) ก็ไม่มีสัยญาณไฟใดๆ ปรากฏ และไม่มีเสียงร้องใดๆ เช่นกัน

ข้อสันนิษฐาน

• แบตเตอรี่อาจจะเสียหรือเสื่อมสภาพ
• เมนบอร์ดเสีย
• อื่นๆ

วิธีแก้ไข

• เปลี่ยนแบตเตอรี่ (ในที่นี้ใช้วิธีการถอดแบตเตอรี่จากเครื่องสำรองไฟ (ups) ที่ปกติดี มาเปลี่ยนแทน)

ขั้นตอนการเปลี่ยนแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟ (ups) ยี่ห้อ Syndome 800VA

1.  ถอดสกรูด้านล่างของเครื่องสำรองไฟ (ups) 4 ตัวออก (เครื่องสำรองไฟ (ups) ยี่ห้อนี้ ต้องใช้ไขควงปากแฉก 4 แฉกแบบทั่วไป แต่ต้องใช้แบบยาว เนื่องจากตัวสกรูอยู่ค่อนข้างลึก)

2.  เปิดฝาด้านบน ก็จะมองเห็นแบตเตอรี่ตัวใหญ่อยู่ภายใน

3.  ถอดสายที่ต่อเข้าแบตเตอรี่ทั้งขั้วบวก และลบออก(สายสีดำ และสีแดง)

4.  นำแบตเตอรี่ที่ปกติดีมาใส่แทนตำแหน่งเดิม และต่อสายขั้วบวก และลบกลับเข้าไป

5.  ประกอบเครื่องสำรองไฟ (ups) กลับสู่สภาพเดิม ขันสกรูยึดให้เรียบร้อย

วิธีการทดสอบการทำงานของเครื่องสำรองไฟ (ups)

1.  ทดลองนำเครื่องสำรองไฟ (ups) มาเสียบเข้ากับเต้ารับไฟบ้าน และเปิดเครื่องสำรองไฟ (ups) ให้สังเกตว่ามีสัญญาณไฟแสดงไหม โดยปกติต้องมีสัญญาณไฟปรากฏ และไม่มีเสียงเตือนใดๆ ดังแบบต่อเนื่อง

2.  ถอดสายไฟของเครื่องสำรองไฟ (ups) ออก และยังคงเปิดเครื่องสำรองไฟ (ups) อยู่ ให้สังเกตุว่ามีสัญญาณไฟแสดงไหม และมีเสียงร้องเตือนปกติดีไหม ถ้ามีสัญญาณไฟอยู่ และมีเสียงร้องเตือนแบบต่อเนื่องก็ถือว่าเครื่องสำรองไฟ (ups) ทำงานได้ถูกต้อง

3.  นำเครื่องสำรองไฟ (ups) ไปต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา

4.  เปิดเครืองคอมพิวเตอร์มาตามปกติ

5.  ทดสอบดึงสายไฟของเครื่องสำรองไฟ (ups) ออก และรอให้มีเสียงเตือนจากเครื่องสำรองไฟ (ups) ดังสัก 2-3 ครั้ง หากคอมพิวเตอร์ของเราไม่ดับก็ถือว่าเครื่องสำรองไฟ (ups) ของเรากลับมาเป็นปกติแล้ว (ในกรณีนี้เครื่องกลับมาทำงานได้ตามปกติ แสดงว่าแบตเตอรี่เสียจริง)

หากใครพบเจอปัญหาเกี่ยวกับเครื่องสำรองไฟ (ups) ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ก็ลองเอาวิธีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ไปใช้กันดูนะครับ ถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่องสำรองไฟ (ups) รุ่นอื่น แต่หลักการก็คล้ายๆ กัน คือถอดแบตเตอรี่ตัวเก่าออก และใส่ตัวใหม่กลับเข้าไป แต่หากแบตเตอรี่ตัวใหม่ที่ท่านใช้เป็นตัวใหม่เอี่ยม ที่เพิ่งซื้อมา หลังจากเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้วก็ให้ชาร์จแบตเตอรี่มิ้งไว้สัก 1 วัน ก่อนนำมาใช้งานด้วยนะครับ